Cardio กับ HIIT แบบไหนเบิร์นได้ดีกว่ากัน

by admin
Cardio กับ HIIT แบบไหนเบิร์นได้ดีกว่ากัน เป็นคำถามที่มักจะสงสัยกันเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับ การ Cardio และ HIIT ว่าแบบไหนดีกว่ากัน

Cardio กับ HIIT แบบไหนเบิร์นได้ดีกว่ากัน

เป็นคำถามที่มักจะสงสัยกันเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับ Cardio กับ HIIT แบบไหนเบิร์นได้ดีกว่ากัน จะว่าไปไปแล้วมันก็ดีทั้งสองแบบขึ้นอยู่กับว่าเราสะดวกแบบไหนมากกว่ากัน เช่น การใช้เวลาไม่มาก มีประสิทธิภาพการเผาผลาญสูง สะดวกสบาย HIT คงจะเหมาะที่สุด แต่ก็มีข้อเสียก็คือด้วยความเข้มข้นเหนื่อยหนัก สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย รวมไปถึงความท้อที่จะทำให้ถอดใจได้ง่ายเช่นกัน

 การออกกำลังแบบ HIT ควรจะต้องรู้ว่าทำแบบไหนถึงจะเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้ และให้ประสิทธิภาพสูงสุด จึงไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย ที่กล้ามเนื้อ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ ยังไม่แข็งแรงมากพอ รวมถึงคนที่มีปัญหาสุขภาพอย่างโรคหัวใจอีกด้วยเพราะว่า HIT นั้นบีบคั้นทั้งร่างกายและหัวใจสูงมาก

การออกกำลังกายแบบ HIT นอกจากจะช่วยในบ้านเผาผลาญที่ดี ยังช่วยในด้านสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ช่วยให้วิ่งเร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอึดทนเหมือนอย่างนักวิ่งระยะสั้น หรือนักวิ่งระดับมาราธอนที่สามารถวิ่งได้ยาวไกล โดยที่ไม่รู้สึกล้า

ส่วนการทำ Cardio จะมีข้อเสียตรงที่การเผาผลาญไขมันทำได้ช้ากว่า ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลชัดเจน การเผาผลาญหลังจากออกกำลังกายก็มีไม่มากเท่าการทำ HIT เหมาะกับการออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ อย่างการวิ่งโซน 2 ปั่นจักรยาน เพื่อผ่อนคลายจากอาการเครียด ยังส่งผลดีในเรื่องกายช่วยลดความเสี่ยงจากอการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ข้อต่อกระดูก การทำ Cardio หากจะมีอาการบาดเจ็บก็ไม่ใช่อาการที่รุนแรงมากนัก นอกเสียจากว่าหักโหมเกินไป อย่างการวิ่งยาว ๆระยะ 30 – 40 กิโลเมตรบ่อย ๆ

การ Cardio จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นออกกำลังกาย เป็นพื้นฐานเพื่อต่อยอดในการออกกำลังกายแบบ HIT ฉะนั้นควรทำ Cardio บ่อย ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ที่จะส่งผลให้เราออกกำลังกายประเภทอื่นได้ดีขึ้น

สรุป

การทำ Cardio เหมาะกับผู้กำลังเริ่มต้น ส่วน HIIT เหมาะสำหรับคนที่ร่างกายแข็งแรงในระดับหนึ่ง ซึ่งทางที่ดีควรจะทำควบคู่กันไป เพราะหากออกกำลังกายแบบ HIIT ทุกวันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ หากทำ Cardio ทุกวันก็อาจจะรู้สึกเบื่อได้เช่นกัน ควรจะจัดตารางฝึกในแต่ละสัปดาห์ให้มีทั้งสองแบบจะดีที่สุดอย่างเช่น วันที่ 1 HIIT วันที่ 2 Cardio วันที่ 3 พัก ทำวนไปแบบนี้เป็นต้น

สิ่งที่สำคัญอย่าลืมจุดมุ่งหมายที่แท้จริงว่าเราออกกำลังกายเพื่ออะไร แล้วจงสนุกกับมัน แล้วความสุขจะตามมา รู้ตัวอีกทีก็ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้แล้ว


You may also like

Leave a Comment