7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก ที่ทำแล้วเห็นผล

by admin
7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก ที่ทำแล้วเห็นผล

7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก ที่ทำแล้วเห็นผล           

7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก ที่ทำแล้วเห็นผล คนที่เริ่มวิ่งใหม่ๆ อาจจะมีอาการ วิ่งแล้วจุก  จนทำให้ ไม่มีกำลังใจ ในการวิ่งต่อ หรือท้อไปเลยก็มี      ซึ่งอาการนี้ มักจะเกิดขึ้นได้ บ่อยครั้ง ดั้งนั้น เราควรมีเทคนิค  วิธีวิ่งไม่ให้จุก มาให้ทุกคนได้ลองเอาไปใช้กัน โดยมั่นใจว่า จะทำให้อาการจกดังกล่าว หายจนลืมไปอย่างแน่นอน

 

Closeup of runner girl have stomach pain after jogging work out in park. Health care concept.

 

เบื้องต้น 7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก ควรรู้สาเหตุก่อน

วิ่งแล้วจุก เกิดจากอะไร ได้บ้าง สาเหตุที่ 1.รับประทานอาหาร ก่อนวิ่ง ทำให้กล้ามเนื้อ ต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม เนื่องจาก ต้องย่อยอาหารไปด้วย เลยทำให้ เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่พอ ส่งผลให้ เกิดอาการจุกตามมา

สาเหตุที่ 2.ลืมวอร์มร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก่อนจะออกกำลังกาย ทุกชนิด เพื่อช่วยป้องกันกล้ามเนื้อ ไม่ให้บาดเจ็บ รวมถึงกล้ามเนื้อแกนลำตัว ที่ช่วย เรื่องระบบหายใจด้วย

สาเหตุที่ 3.หายใจผิดจังหวะ วิ่งท่าผิด ซึ่งการหายใจ เป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึง มากๆ เพราะจะทำให้ การวิ่งดำเนินต่อไป ได้เป็นอย่างดี โดย      ถ้าหายใจ สั้นเกินไป ก็อาจจะทำให้ เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย ได้น้อยลงกว่าเดิม

สาเหตุที่ 4.กล้ามเนื้อซี่โครง ทำงานได้ไม่ดี ไม่ค่อยสมบูรณ์ ซึ่งกล้ามเนื้อในส่วนของตรงนี้ มีไว้ใช้เพื่อช่วย ในการหายใจเข้าออก ของร่างกาย

วิ่งไม่ให้จุกต้องทำอย่างไรบ้าง

7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก และ วิ่งแล้วจุก แก้ไขอย่างไร

เริ่มด้วย วิธีที่ 1.ไม่ควรรับประทานอาหารเยอะ ก่อนไป  ออกำลังกาย โดยทางที่ดี ควรจะรับประทานอาหาร ก่อนจะออกไปวิ่ง ประมาณ 2 ชั่วโมง ให้รับประทานเป็นอาหาร มื้อเล็กๆ แบบย่อยง่าย ควบคุมปริมาณให้พอดี ให้เลี่ยงอาหาร ที่มี คาร์โบไฮเดรตสูงมาก หรืออาหารที่มีไขมันสูง เพราะร่างกาย จะใช้เวลาย่อยนาน จึงทำให้ เราเกิดอาการจุก ตอนวิ่งได้

วิธีที่ 2.วอร์มอัพร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมให้ร่างกาย จะช่วย ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ มีความยืด ทำให้เราออกกำลังกาย  ได้อย่างดี ช่วยให้ อวัยวะต่างๆของร่างกาย ทำงานได้ดีขึ้นด้วย และ ช่วยลดอาการจุกเสียดภายในร่างกายได้เช่นกัน

วิธีที่ 3.ต้องหายใจให้ถูกต้อง ก็คือหายใจเข้าทาง   จมูก แล้วปล่อยลมออกทางปาก ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามสบาย แบบไม่ฝืน ต้องฝึกหายใจ ด้วยท้องด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ การสูดลมหายใจ จนท้องขยาย และปล่อยลมออกมา ด้วยการแขม่วท้อง จะทำให้เราไม่จุกง่าย และวิ่งได้นานขึ้น

วิธีที่ 4.ปรับเปลี่ยนท่าวิ่ง โดยเราต้องดูตัวเองตอนวิ่ง ว่าเราได้เอนตัวช่วงบน ไปด้านหน้าเยอะไป หรือเปล่า ซึ่งถ้าเราทำแบบนั้น ก็อาจจะเป็นสาเหตุของ อาการจุกท้อง ได้ เพราะฉะนั้น เราต้องวิ่งให้ถูกท่า และเป็นธรรมชาติ ด้วยการ ตั้งศีรษะให้ตรง ตามองไปด้านหน้า ตั้งแต่หัว ลงมาจนถึงสะโพก เป็นเส้นตรง ไม่เอนไปด้านหน้า หรือด้านหลัง

วิธีที่ 5.ทำให้ช่วงลำตัว อย่าง กล้ามเนื้อท้อง กับ สะโพก แข็งแรง ซึ่งเป็น ส่วนที่ใช้งานหนัก ไม่ต่างกับส่วนล่าง เช่นกัน และยังช่วยลดอาการ วิ่งแล้วจุกอก ได้ด้วย

วิธีที่ 6. ฝึกวิ่งบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายมีความเคยชิน ให้วิ่งไปตามกำลังที่เราไหว ค่อยๆ เพิ่มเวลา และ เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ ทำแบบนี้ทุกวัน  ก็จะ   ทำให้เรา รู้สึกเหนื่อยน้อยลง

วิธีที่ 7.ใช้วิธีรัดเอวช่วย โดยเหมาะกับ คนที่มีปัญหาจริงๆ ให้จำกัดการเคลื่อนไหวร่างกาย ด้วยผ้ารัดเอว จะช่วยลดอาการจุก ตอนวิ่งได้ดีเช่นกัน

 

 

ปรับวิธีใช้ ให้เข้ากับร่างกายตัวเอง

ทั้งหมดเป็น 7 วิธีวิ่งไม่ให้จุก ที่เรานำมาฝากทุกคน หวังว่า จะช่วยทำให้ คนที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้อยู่ แก้ปัญหาได้ ไม่มากก็น้อย  โดยสามารถนำวิธีต่างๆ ไปปรับใช้ ให้เข้ากับร่างกายของตัวเอง ได้เลย เพราะว่าร่างกายของคนเรา มีสรีระที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเรา วิ่งแล้วมี อาการจุกท้อง หรือว่า จุกอก รวมถึง  จุกลิ้นปี่ มันจะเป็นการขัดขวาง ไม่ให้เราวิ่ง ได้อย่างเต็มที่ และยังทำให้เรา รู้สึกเจ็บปวดด้วย โดยอาการจุก เรียกได้ว่า เป็นปัญหาใหญ่ของนักวิ่ง ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างไรแล้วนั้น นักวิ่ง รวมถึง คนที่พึ่งเริ่มต้นวิ่ง หลายคน ได้ลองทำวิธีต่างๆ แล้ว ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นวิธีที่สามารถใช้ได้จริง และยังช่วย ลดอาการจุก ได้เป็นอย่างดี  ทำให้ วิ่งได้เร็วขึ้น วิ่งได้อึดขึ้น และยังทำให้ วิ่งระยะทางไกลได้อีกด้วย เช่นเดียวกัน

 

 

 


You may also like

Leave a Comment