หมดไฟในการวิ่ง เกิดขึ้นได้ แค่หากเกิดขึ้นควรทำยังไง

by admin
หมดไฟในการวิ่ง เกิดขึ้นได้ แค่หากเกิดขึ้นควรทำยังไง เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อย ที่ชอบวิ่ง หรือออกกำลังกาย เป็นประจำ แต่จู่ ๆ

หมดไฟในการวิ่ง เกิดขึ้นได้ แค่หากเกิดขึ้นควรทำยังไง

เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อย ที่ชอบวิ่ง หรือออกกำลังกาย เป็นประจำ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเบื่อแล้ว ไม่อยากออกไปวิ่งแล้ว ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทำไม วิ่งเพื่ออะไรอีกแล้ว พูดอีกอย่างก็คือหมดไฟ ไฟที่เคยลุกโชนตัวมันเริ่มจะมอดดับลง จนไม่รู้สึกอยากวิ่ง แล้วก็ถามตัวเองว่า จะเร็วไปเพื่ออะไร ไกลว่านี้แล้วได้อะไร เมื่อเป็นเช่นนี้จะวิ่งอีกทำไม

จริง ๆ แล้วความรู้สึกเหล่านี้ หรืออาการหมดไฟไม่ใช้ความรู้สึกที่ผิดอะไรเลย เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับนักวิ่งทุก ๆ คน รวมไปถึงเกิดขึ้นได้ในกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตด้วย ซึ่งสาเหตุมันก็อาจจะมีหลายอย่าง เช่น เบื่อที่ต้องพยายาม ยิ่งพยายามสิ่งที่หวังก็ไม่ได้ใกล้กับคำว่าใกล้เคียง แม้แต่น้อย กำลังใจที่เคยมีก็ไม่มีแล้ว (อาจจะอกหัก) การบาดเจ็บซ้ำซากไม่หายสักที หมดไฟในการวิ่ง เกิดขึ้นได้ แค่หากเกิดขึ้นควรทำยังไง

แล้วหากเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาควรจะทำยังไงดี

นักวิ่งที่เริ่มต้นใหม่ ๆ ไฟในตัวมันมีความลุกโชน อยากเร็วกว่าเดิม อยากไปไกลกว่าเก่า อยากลงแข่งทุกรายการ ยิ่งสนามใหม่ยิ่งเย้ายวน อยากได้อุปกรณ์วิ่งใหม่ ๆ อยากพัฒนาทุกอย่างให้ดีกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีแรงจูงใจเหลือล้น ทุกงานวิ่งมันสนุก เจอเพื่อน ๆ นักวิ่ง บรรยากาศคึกคัก ทุกเช้ามืดต้องออกไปซ้อม และต้องทำได้ตามเป้าหมาย ราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิตที่จะได้วิ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเหล่านั้นทำไมหายไป

ดังนั้นให้นึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ให้นึกถึงวันแรกที่ตัดสินใจออกไปวิ่ง โดยที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย แถมร่างกายก็ไม่แข็งแรง วิ่ง 5 นาทีก็หอบหายใจไม่ทันแล้ว แต่กลับรู้สึกดีมากนอนหลับได้สนิท

นึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เคยผ่านมาตลอดระยะเวลาที่ออกไปวิ่ง ว่าเรามาถึงตรงจุดนี้ได้อย่างไร เหตุผลอะไรที่เรายอมทำ แล้วอะไรที่ทำให้เรายอมอยู่กับมัน

จงนึกว่าการวิ่งไม่ได้บังคับตัวเราให้เก่งเท่า หรือเก่งกว่าคนอื่น แต่เป็นตัวเราเองที่บังให้ร่างกายออกไปวิ่ง ฝึกซ้อมให้เก่งที่สุดเท่าที่ขีดสามารถของตัวเองจะทำได้ วิ่งให้มีความสุข ไม่เร่งรีบ ไม่ต้องคาดหวัง คิดว่าวิ่งเพื่อสุขภาพเพื่อตัวเอง หรือเพื่อลดน้ำหนัก ไม่จำเป็นต้องเค้นตัวเองให้เร็วขึ้น ไกลขึ้น แค่ไม่เป็นหวัดบ่อย ไขมันในเลือดไม่สูง ความดันปกติ เบาหวานไม่ถามหา เสื้อผ้าไม่คับ ก็นับว่าได้ทำสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเองในทัก ๆ วันแล้ว หากใครกำลังหมดไฟลองคิดแบบนี้ดู เพราะหากคุณหยุดวิ่งไปจริง ๆ แล้ววันหนึ่งกลับมาวิ่งใหม่ บางทีคุณอาจจะพูดว่า “รู้ยังงี้ตอนนั้นไม่น่าหยุดเลย”


You may also like

Leave a Comment