วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง เกิดจากอะไรบ้าง
วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง เกิดจากอะไรบ้าง เชื่อว่านักวิ่งหลายคน น่าจะต้อง เคยเจอกับ อาการ เจ็บหน้าแข้ง กันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อด้านใน และด้านหน้า ของหน้าแข้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบ ต่อการวิ่ง เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็น เพราะฉะนั้น เรามาดูกันว่า สาเหตุที่ทำให้ วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง มีอะไรบ้าง
วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง แบ่งเป็น 2 ประเภท
สำหรับ อาการ ปวดหน้าแข้ง จะแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน เริ่มด้วย ประเภทที่ 1.ปวดตรงสันหน้าแข้งด้านหน้า กับ ประเภทที่2. ปวดสันหน้าแข้งด้านใน ที่จะพบได้บ่อย ช่วงล่างจุดเกาะของกล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อ Tibialis Posterior ทำหน้าที่ ในการบิดข้อเท้ามาด้านใน รวมถึงจิกปลายเท้าอีกด้วย ซึ่งอาการนี้ สามารถเกิดขึ้น ได้จากหลายสาเหตุ อย่างเช่น กระดูกหัก กล้ามเนื้อฉีก แต่ที่เห็นส่วนมาก จะเป็นการฝึกแบบหักโหมมากเกินไป
สาเหตุมีอะไรบ้างมาดูกัน
การที่ วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง อาจจะมาจาก หลายสาเหตุด้วยกัน
เริ่มที่ 1.การวิ่งหรือฝึก แบบหักโหมสุดๆคนที่ต้องการเร่งซ้อม จะเป็นบ่อยมาก เพราะต้องการ ทำให้ร่างกายเข้าที่ แต่การทำแบบนั้น มันจะทำให้ ร่างกายและกล้ามเนื้อ ทำงานหนักมากกว่าเดิม และยังทำให้ หน้าแข้งอักเสบ ได้ง่ายมากๆด้วย
2.ไม่ได้วอร์มร่างกาย หรือว่า ยืดกล้ามเนื้อ ก่อนจะลงวิ่ง ซึ่งขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่จำเป็น และสำคัญต่อร่างกายมากๆ จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อ มีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม
3.ยืดกล้ามเนื้อ ก่อนและหลังออกกำลังกาย น้อยเกินไป โดยการยืดกล้าม เนื้อ ควรจะต้องทำให้ได้ ตามที่กำหนดไว้ ถ้าน้อยเกินไป อาจจะทำให้ กล้ามเนื้อทำงาน ผิดปกติได้
4.รองเท้า ที่ใส่ ไม่เหมาะกับการวิ่ง พื้นรองเท้า อาจจะแข็งเกินไป รวมถึงการวิ่งบนพื้นที่ มีความแข็งมากๆด้วย
5.เท้ามีลักษณะแบน ซึ่งจะเป็นคนที่วิ่งแล้ว ปลายเท้าหันออกด้านนอก เยอะเกินไป ทำให้วิ่งแล้ว รู้สึกกล้ามเนื้ออักเสบได้ง่ายมากๆ
ปวดหน้าแข้ง รักษา และต้องดูแล อย่างไร ถ้ามีอาการอักเสบ อย่างเห็นได้ชัด และมีการ บวม หรือว่าปวดหนักมากๆ ก็จำเป็นจะต้อง หยุดทำกิจกรรมทุกอย่าง ที่ก่อให้เกิด อาการบาดเจ็บไปก่อน ซึ่งหลังจากนั้นให้ใช้
วิธีที่ 1.ด้วยการประคบเย็น เป็นระยะเวลาทั้งหมด 10-15 นาทีด้วยกัน ก็จะช่วยลดอาการอักเสบ ได้เป็นอย่างดี และช่วงที่พักอยู่ ก็ต้องหมั่นยืดกล้ามเนื้อแข้ง กับกล้ามเนื้อน่อง เป็นประจำด้วย วิธีทำก็คือ ให้ยืนกดปลายเท้า หมุนข้อเท้า เข้ามาด้านใน หรือหมุนเท้าออก เป็นการหาจุดตึง ตรงหน้าแข้ง ซึ่งตอนที่ยืด ให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่ตึงจนรู้สึกเจ็บ ให้ทำค้างไว้ 15-20 นาที ทำทั้งหมด 3-5 ครั้ง ด้วยกัน
วิธีที่ 2.ใช้นิ้วโป้ง กดนวด แล้วคลึง ตรงกล้ามเนื้อข้างสันหน้าแข้งที่ตึง แต่ไม่ต้องออกแรง กดเยอะเกินไป
วิธีที่ 3.ใช้อุปกรณ์อย่าง Foam Roller ช่วยคลึงกล้ามเนื้อ ตรงที่มีอาการปวด
วิธีที่4.ให้ยืนหันหน้า เข้ากำแพง แล้วก็เหยียดขา ที่จะยืดน่องไป ทางด้านหลัง ให้เท้าติดพื้น ค้างไว้ 15 วินาที ทำแบบนี้3-5 รอบ ต่อด้วยกลับมา ยืนตรงเหมือนเดิม
วิธีที่ 5.ยืน หันหน้าเข้ากำแพง แล้วก็เหยียดขาที่ จะยืดน่องไปทางด้านหลัง แต่วิธีนี้ ต้องงอเข่าพอสมควร ให้เท้าติดพื้น ค้างไว้ 15 วินาที ทำแบบนี้ 3-5 รอบ แล้วก็กลับมายืนตรง
เตรียมความพร้อมหลังจากอาการดีขึ้น
หวังว่าสาเหตุการ ปวดแข้งเกิดจากอะไร ได้บ้าง ที่เรานำได้มาฝาก น่าจะเป็นประโยชน์ ให้กับนักวิ่ง รวมถึงคนที่ เจ็บหน้าแข้งจากการวิ่ง ไม่มากก็น้อย
โดยหลังจากที่เรา วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง และรักษาตัวให้หายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเตรียมความพร้อม ให้กับร่างกาย เพื่อกลับมาวิ่งอย่างเต็มที่ ด้วยการใช้ผ้าขนหนู รองไว้ที่ใต้ข้อเท้า พยายาม กระดกปลายเท้าขึ้น-ลง หรือจะใช้ถุงทราย เป็นการเพิ่มน้ำหนักลงไป ประมาณ 0.5 -1 กิโลกรัม ทำ 10-12 ครั้ง ต่อเนื่อง 3-5 รอบ หรือจะยืนเขย่งปลายเท้าขึ้นลง ก็ได้เช่นกัน ทำ 10-12 ครั้ง 3-5 รอบ
แต่ถ้าเกิดทำแล้ว อาการยังไม่หายขาด มีแนวโน้มว่า จะมีอาการปวดเรื้อรัง แนะนำว่า ควรจะปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้าทำการรักษา ตามกระบวนการ เพื่อช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ และซ่อมแซมร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
- วิ่งผ่าเมืองกับงานวิ่งระดับ BronzeLabel Amazing Thailand Marathon Bangkok
-
Chaehom Trail Running แจ้ห่มเทรล บนดอยฟ้างาม 29 พฤศจิกายน 63
-
กิจกรรม 1 ล้านกิโลเมตร 1 ล้านบาท ช่วยทัพไทยคว้าชัยโอลิมปิกเกมส์
- รายการเเข่งขันจักรยาน เคล็ดลับนักปั่น