ท่าวิ่งที่ถูกวิธี ทำตามแล้วไม่มีบาดเจ็บร่างกายพังแน่นอน
การวิ่งออกกำลังกายถือว่าเป้นรูปแบบการออกกำลังที่ง่ายและสะดวกมากที่สุดเมื่อเทียบกับรูปแบบการออกกำลังอื่น ๆ ท่าวิ่งที่ถูกวิธี แต่การวิ่งที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้ดีต้องไม่เป็นการวิ่งแล้วก่อให้เกิดโรคภัยต่อตัวเอง เช่น ข้อเข่าเสื่อมลง กล้ามเนื้ออัก หรือเอ้นข้อเท้าอักเสบ วันนี้เรามาเรียนรู้รูปแบบการวิ่งที่ถูกวิธีกัน
ลักษณะการวิ่งที่ถูกวิธีตามวิทยศาสตร์การกีฬา
การลงทุนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากที่สุดและใช้เงินน้อยที่สุดในเวลานี้ การวิ่งถือเป้นทางออกที่น่าสนใจและสามารถทำได้ทุกคนเพียงแค่เรอ่มก้าวเท้าเท่านั้น เพื่อให้การวิ่งเกิดประสิทธิและประสิทธิผลสูงสุด ท่าทางหรือรูปแบบในการวิ่งที่ถูกต้องของผู้ออกกำลังกายต้องประกอบไปด้วย
- ไม่วิ่งก้มหัว หลังตรง และตามองไปข้างหน้า เป็นการตั้งแกนของร่างกายให้ตรง คนวิ่งส่วนใหญ่มักจะชอบมองฝีเท้าของตัวเองซึ่งไม่รู้ว่ามองทำไม การวิ่งที่ถูกต้องควรมองไปข้างหน้าเพื่อเห็นสิ่งกีดขวางในระยะต่างๆ ได้ดีและเตรียมตัวป้องกันทัน นอกจากนี้ท่าทางที่ดีจะช่วยให้เกิดสมดุลของร่างกายช่วยเรื่องการหายใจที่คล่องและสะดวกขึ้น
ส่วนหลังตรงไม่เอียงหรือพับเอวไปข้างใดข้างหนึ่ง อีกทั้งควรทิ้งน้ำหนักตัวพร้อมกับเอนไปก้านหน้าเล็กน้อยเพื่อไม่ให้หลังที่ตรงนั้นตึงเกินไป เพราะหลังที่ตรงมากจะทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและบาดเจ็บได้ง่าย การวิ่งหลังตรงเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อยช่วยให้ปอดทำงานได้ดีและขยายตัวมากขึ้น
- ตำแหน่งของแขนต้องสมดุลย์และเหมาะสม โดยข้อศอกจะทำมุมกับลำตัวประมาณ 90 องศาไม่ยกแขนสูงแบบชิดหน้าอก หรือห้อยแขนต่ำเกินไป ในจังหวะการแกว่งแขนให้สอดคล้องกับจังหวะของการวิ่ง ใช้หัวไหล่เป็นจุดหมุนในการเคลื่อนแขวทั้งสองข้าง ไม่ต้องกำมือหรือออกแรงเหวี่ยงแขนเพราะจะทำให้กล้ามเนื้อมีอาการเกร็งจนเกินพอดี
ในขณะที่วิ่ง ควรปล่อยมือให้รู้สึกสบายที่สุดไม่ต้องกำมือแน่นเพียงห่อมือเก็บนิ้วเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว การกำมือแน่นมาก จะส่งผลให้เกิดอาการตึงที่แขน ไหล่ และคอได้
- ตำแหน่งของสะโพกที่เหมาะสม จากที่กล่าวมาแล้ว การวิ่งหลังต้องตรงและเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย ไม่พับเอวไปมาเพราะเกิดอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อหลังและเอวได้ ในส่วนของสะโพกให้ผู้วิ่งทิ้งสะโพกไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ต้องก้าวขายาวเกินไปในเวลาวิ่งออกกำลังกาย
- ตำแหน่งการวางเท้าที่เหมาะสม การวิ่งที่ถูกต้องต้องลงเท้าสัมผัสพื้นทั้งฝ่าเท้า ไม่ลงส้นหรือจิกปลายเท้าไปกับพื้นวิ่ง เว้นแต่การวิ่งนั้นจะเน้นความเร็วซึ่งการวิ่งโดยเน้นความเร็วเป็นหลักต้องวิ่งโดยใช้ปลายเท้าจิกสัมผัสพื้นผิวลู่วิ่งเพื่อทำเวลาและยังสามารถรับแรงกระแทกและนำหนักตัวได้น้อยกว่าการวิ่งโดยลงส้นเท้าหลายเท่า
การวิ่งถูกวิธีได้ทั้งกำลังและความสุข
จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น การวิ่งที่ถูกรูปแบบจะทำให้ผู้วิ่งไม่ได้รับบาดเจ็บและยังสามารถเพิ่มความสุขเข้ามาในชีวิตได้อย่างง่ายๆ อีกด้วย
