ทำไมรองเท้าวิ่งถึงแพง จริง ๆ ต้นทุนเท่าไหร่กันแน่ สำหรับนักวิ่งรองเท้าคืออุปกรณ์การวิ่งที่สำคัญเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะเป็น นักวิ่งหน้าใหม่หรือหน้าเก่าก็ต้องหารองเท้าคู่ใจที่ใส่แล้วลงตัวที่สุด แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องซื้อรองเท้าคู่ใหม่แล้วนั้นก็ต้องคิดหนักกันหลายรอบ เพราะราคาค่อนข้างจะสูงโดยมีราคาระดับ 1,000 ต้น ๆ ไปจึงคู่ละเป็นหมื่นบาทก็มี ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าจริง ๆ แล้วต้นทุนการผลิตนั้นอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ ซึ่งเราจะนำข้อมูลต้นทุนรองเท้ามาเล่าให้กันฟัง ซึ่งอ้างจากแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์ Solereview.com ซึ่งเป็นข้อมูลเมื่อ ปี 2558 โดยเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการเงินของบริษัทอุปกรณ์กีฬาเจ้าใหญ่ของโลกอย่าง Nike และ Adidas ว่าจริงแล้ว ๆ ได้กำไรเท่าไหร่ต่อรองเท้าหนึ่งคู่แล้วมีส่วนไหนบ้างที่ทำให้รองเท้าแพงขึ้น โดยที่จะไม่กล่าวถึงต้นทุนวัสดุในการผลิต (เพราะเป็นความลับ)
อย่าลืมว่ากว่าที่นักวิ่งอย่างเรา ๆ จะได้ใส่รองเท้าแต่ละคู่นั้นต้องผ่านหลายกระบวนการหลายขั้นตอน (ไม่รวมถึงขั้นตอนการผลิต) ผ่านส่วนต่าง ๆ มากมาย แค่ออกจากโรงงานมาก็เป็นค่าใช้จ่ายกันแล้ว อย่างเช่นถ้าโรงงานอยู่ในจีน กว่ารองเท้าจะเข้ามาถึงเมืองไทย ก็ต้องขนส่งกันทางเรือ (ยังไม่รวมค่าขนส่งกว่าจะมาถึงท่าเรือ) เมื่อจะนำสินค้าเข้าประเทศก็ต้องผ่านด่าน ผ่านด่านศุลกากร
ว่ากันว่าถ้าต้นทุนรองเท้าอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ เมื่อผ่านศุลกากร จะกลายเป็น 24.30 ดอลลาร์ทันที และเมื่อจะต้องเข้าร้าน หรือช็อปต่าง ๆ (ยังไม่รวมค่าขนส่งภายในประเทศ) ซึ่งร้านค้าจะต้องซื้อ เข้าร้านอีก 50 ดอลลาร์ (โดยประมาณ) ที่เรียกว่า Retailer ดังนั้นถ้าคิดแบบคร่าว ๆ
สมมุติว่าราคารองเท้าวิ่ง 1 คู่ราคาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ ต้นทุนอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ ทางแบรนด์ ไนกี้ หรือ อาดิดาส จะได้อยู่ที่ ประมาณ 28 -30 ดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่กำไรสุทธิ ที่ได้เข้ากระเป๋าแต่อย่างใด
เพราะยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกเยอะ และยังไม่รวมถึงภาษีรายได้ที่จะต้องโดนหักอีกนะ!!
แล้วตกลง Nike หรือ Adidas ได้เท่าไหร่กันแน่ ? ถ้าจะให้สรุปแบบง่าย ๆ คือเมื่อหักค่าขนส่งต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่าย ยิบย่อย รวมค่าผ่านด่าน ศุลกากร และภาษีทั้งหลายแหล่แล้วนั้น
รองเท้าที่วิ่งที่วางขายกันในท้องตลาด ราคา 100 ดอลลาร์ บริษัทเจ้าของแบรด์ ทั้งไนกี้ และ อาดิดาส จะได้กำไรสุทธิเข้ากระเป๋าตัวเองเพียงแค่ประมาณ 2-5 ดอลลาร์ ต่อรองเท้าหนึ่งคู่ ซึ่งหากมองเพียงแค่รองเท้าเพียงหนึ่งคู่อาจจะดูเหมือนว่ากำไรน้อยนิดมาก แต่ถ้ามองกันในมุมกว้างระดับยอดขายทั้งโลกนั้นถือว่ามหาศาล ไม่งั้นคงไม่ลงทุนจ้างซุปเปอร์สตาร์ในวงการต่าง ๆ มาโฆษณาได้แน่ ๆ รวมไปถึงการเป็นสปอนเซอร์ให้กับรักกีฬาหรือทีมกีฬาอีกเยอะแยะมากมายอย่างที่เราเห็นกันบ่อย ๆ นั่นแหละ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เพื่อให้นักวิ่งที่คิดจะซื้อรองเท้ารู้สึกนอย หรือว่ารู้สึกถูกเอาเปรียบแต่อย่างใด เพียงแค่เอามาบอกกล่าวไว้เพียงแค่ว่า รองเท้าวิ่งที่มันแพงนั้นไม่ใช่เพราะทางเจ้าของแบรนด์คิดกำไรเยอะมากมาย แต่จะแสดงให้เห็นว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างแค่นั้นเอง อย่าลืมว่าแบรนด์รองเท้าต่าง ๆ นั้น ก็เป็นผู้ลงทุนคิดค้นเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้เรามีรองเท้าที่วิ่งแล้วรู้สึกสบาย วิ่งดีขึ้นวิ่งเร็วขึ้น การที่เราจ่ายแพง ๆ นั้นก็คิดว่าแลกกับเทคโนโลยีความทันสมัยในด้านต่าง ๆ และได้สุขภาพที่ดี แค่นี้ก็คชถือว่าคุ้มแล้ว และที่สำคัญเมื่อเราซื้อเราเท้าวิ่งแพง ๆ มาใส่ ก็ควรจะทะนุถนอม ดูแลให้ดีที่สุด เพราะจะทำให้สามารถใส่วิ่งไปได้นานและคุ้มค่าที่สุด จะได้ไม่ต้องมาคิดมากเกี่ยวกับราคาหากจะต้องซื้อคู่ใหม่ บ่อย ๆ นั่นเอง ทีนี้เพื่อนๆรู้หรือยังคะว่า ทำไมรองเท้าวิ่งถึงแพง จริง ๆ ต้นทุนเท่าไหร่กันแน่
- 6 สนามซ้อมวิ่งเทรลใกล้กรุงเทพ
- สถานที่ยอดฮิตในการวิ่งมาราธอน
- สวนจตุจักร สถานที่ออกกำลังกาย ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย
- สวนหลวงร. 9 สถานที่ออกกำลังกายที่มีทั้งความสวยงามและสวนน้ำ