ทำยังไงดีถ้าอยากไปวิ่งแต่ไม่มีเวลา

by admin
ทำยังไงดีถ้าอยากไปวิ่งแต่ไม่มีเวลา การวิ่งจะส่งเกิดประโยชน์กับร่างกายก็ต้องวิ่งต่อเนื่องอย่างน้อย 30 – 45 นาทีขึ้นไปนักวิ่งหลายคนไม่มีเวลา

ทำยังไงดีถ้าอยากไปวิ่งแต่ไม่มีเวลา

การที่จะออกไปวิ่ง แต่ไม่มีเวลา สำหรับนักวิ่งหลายคนมันไม่ใช่ข้อแก้ตัวแต่อย่างใด เพราะ การวิ่งจะส่งเกิดประโยชน์กับร่างกายก็ต้องวิ่งต่อเนื่องอย่างน้อย 30 – 45 นาทีขึ้นไป แต่ละสัปดาห์ก็ไม่ควรน้อยกว่า 150 นาที ในนักวิ่งหลาย ๆ คนนั้นที่ไม่มีมีเวลาก็เกิดจากปัญหาที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องทำงานจนดึกแล้วตื่นสาย แล้วต้องรีบไปทำงานต่อ ฯลฯ

ซึ่งมันก็วิธีแก้ไข โดยเป็น การวิ่งที่ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 15 นาที เท่านั้น แต่สร้างประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก แต่บอกไว้ก่อนว่า วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์วิ่งมาสักระยะ มีกล้ามเนื้อ กระดูก ที่แข็งแรง รวมทั้งระบบการหายใจที่ดี ไม่แนะนำสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้น เพราะอาจส่งผลให้บาดเจ็บได้

ทำยังไงดีถ้าอยากไปวิ่งแต่ไม่มีเวลา

การที่มีเวลาน้อยแล้วต้องวิ่งโดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาที นั้น แน่นอนว่าจะต้องแลกกับความเหนื่อยหนักกว่าการวิ่งแบบธรรมดา 30 -45 นาที อยู่แล้ว แต่ร่างกายเราจะสามารถรักษาความฟิตไว้ได้ ทำให้ร่างกายตื่นตัว มีการหลัง สาร Endorphin ทำให้รู้สึกแจ่มใส สมองปลอดโปร่งในการทำงานได้ทั้งวันอย่างแน่นอน

เริ่มต้นด้วยการทำ Dynamic Stretching ประมาณ 3 นาที หลังจากนั้นให้ข้ามการวอร์มอัพ อบอุ่นร่างกายแบบปกติ แต่ให้จ๊อกเบา ๆ โซน 1- 2  ประมาณ 400- 500 เมตรเป็นการวอร์มอัพแทน หลังจากนั้นให้ไต่ระดับความเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงโซน 3 แก่ ๆ หรือโซน 4 ต้น ๆ วิ่งไปจนครบ 15 นาที (รวมเวลาตอนจ๊อกอบอุ่นร่างกายด้วย) หลังจากนั้น ให้ยืดเหยียด ประมาณ อีก 3 -5 นาที เราจะเห็นได้ว่า เหงื่อจะไม่ออกในระดับพอดี กล้ามเนื้อก็ไงกับตึง หลังจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานได้ตามปกติ

ออกไปวิ่งโดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อยด้วยวิธีนี้ก็เพียงพอให้คุณให้คุณรู้สึกสดชื่นแล้ว แล้วถ้ามองตามทฤษฎีตามหลักสุขภาพการวิ่งแบบนี้ 15 นาทีเท่ากับเราวิ่งช้า ๆ 30 นาที เลยทีเดียว ซึ่งเทียบเท่ากับมาตรฐานที่สมาคมโรคหัวใจกำหนดไว้พอดี ที่ในหนึ่งสัปดาห์ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที

หากใครมีเวลาไม่มาก ก็แนะนำลองใช้วิธีนี้วิ่งดู ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดประมาณแค่ 20 นาทีเท่านั้น ถึงแม้นักวิ่งจะรู้สึกว่าใช้เวลาน้อยไปรู้สึกไม่เต็มอิ่ม แต่วิ่งน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้วิ่ง ใช่ไหมล่ะ

 และ การวิ่งแบบนี้ควรใช้เฉพาะตอนที่ไม่มีเวลาจริง ๆ ไม่ควรใช้เป็นประจำ เนื่องจากว่าหากใช้วิธีนี้วิ่งทุกวัน ความเร็วและความเข้มข้นที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการฝึกซ้อมนั้นก็ควรจะต้องมีหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อร่างกายนั่นเอง


You may also like

Leave a Comment