การวิ่งแบบCruise Modeที่นักวิ่งระยะไกลอยากมี

by admin
การวิ่งแบบCruise Modeที่นักวิ่งระยะไกลอยากมี Cruise Mode คือการวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไหลลื่นแบบอัตโนมัติการก้าวขาและการแกว่งแขน

การวิ่งแบบCruise Modeที่นักวิ่งระยะไกลอยากมี

Cruise Mode คือการวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไหลลื่นแบบอัตโนมัติ การก้าวขา และการแกว่งแขนสอดประสานกัน ทำให้ไปได้เรื่อย ๆ ไม่สิ้นเปลืองพลังงานมาก ระดับ pace คงที่ อัตราการเต้นหัวใจไม่สูงเกินไป การวิ่ง Cruise Mode ไม่ได้ทำกันได้ง่าย ๆ แต่ถ้าทำได้จะรู้สึกว่าวิ่งสบาย ไม่ต้องออกแรงมาก ส่วนมากจะเกิดขึ้นในช่วงกลางของการวิ่ง หากเราไม่กดดันตัวเองในเรื่องของเวลา หรืออยู่ในระหว่างการแข่งขัน จะรู้สึกวิ่งสบายไม่เครียด

การวิ่งแบบCruise Modeที่นักวิ่งระยะไกลอยากมี

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเข้าสู่ Cruise Mode

เราจะไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเข้า cruise mode  เราอาจจะลืมไปด้วยซ้ำว่ากำลังวิ่งอยู่ เพราะความคิดของเราอาจจะไปคิดเรื่องอื่น หรือนึกถึงความทรงจำต่าง ๆ สมองจะนิ่งแม้ร่างกายจะทำงานอยู่ก็ตาม จนมีคนเรียกว่าเป็นการวิ่งสมาธิ มารู้ตัวอีกทีก็ออกจาก cruise mode เมื่อมีคนวิ่งแซงหรือวิ่งจี้ตูด รวมไปถึงอาจจะเข้าเส้นชัยไปแล้ว

แล้วทำยังไงถึงจะเข้าสู่  Cruise Mode

Runner’s World กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับ cruise mode ว่าไม่มีกฎตายตัวเพราะนักวิ่งแต่ละคนมีพื้นฐานไม่เหมือนกัน บางคนเข้าสู่ cruise mode ได้เร็ว บางคนทำได้ช้า แต่ก็มีวิธีที่ทำให้เข้าได้ง่ายขึ้นก็คือ

การฝึกซ้อม – การซ้อมด้วย pace เดียวประจำ วิธีนี้จะทำให้ร่างกาย และสมองจำการเคลื่อนไหว เมื่อวิ่งจะไหลลื่นไปโดยอัตโนมัติ คล้าย ๆ เวลาที่เราต้องใส่เสื้อเชิ้ตทุกเช้าตอนจะไปทำงานหากเราไม่ชินอาจจะต้องมาหารูกระดุม แต่เมื่อทำทุกวันแค่มือคลำก็ติดกระดุมได้แล้ว แถมบางทีสมองยังลอยไปถึงออฟฟิศแล้วอีกต่างหาก (ฮ่า) การฝึกซ้อม Cruise Mode ก็เป็นหลักการเดียวกัน

ฝึกจิตใจให้นิ่ง จิตใจนิ่งไม่ได้หมายความว่าให้หยุดคิดหรือนิ่งเงียบ แต่เป็นการจดจ่อกับเรื่องบางเรื่องเช่นคิดสูตรอาหารหลังวิ่ง เพลงที่กำลังฟังเป็นต้น เมื่อความเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นบวกกับใจที่นิ่ง เราจะไม่คิดถึงการลงเท้า ความเร็ว การแกว่งแขน เมื่อนั้นเราก็จะสามารถเข้าสู่ cruise mode ได้แบบอัตโนมัติ

ไม่กดดัน การวิ่งเจ้าสู่ cruise mode จะเกิดขึ้นตอนที่เราไม่รู้สึกตื่นตระหนกหรือกดดัน มาจะจะเกิดจากตัวเอง หรือสิ่งรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการระวังรถ ไม่กังวลว่าคู่แข่งจะแซง ไม่ห่วงว่าตัวเองวิ่งช้าไป ฯลฯ เมื่อเราไม่กดดันหรือตื่นตระหนก ร่างกายก็จะเข้าสู่ cruise mode ได้ง่ายขึ้น

cruise mode เหมาะมากสำหรับนักวิ่งระยะไกลตั้งแต่ระยะ ฮาล์ฟมาราธอน ขึ้นไปจึงถึงอัลตร้า แต่การที่จะทำได้ก็ต้องขยันฝึกซ้อมแล้วร่างกายก็จะปรับไปเองโดยอัตโนมัติ


You may also like

Leave a Comment